ระบบวางแผนทรัพยากรทางธุรกิจแบบทั่วทั้งองค์กร (ERP)
ระบบ ERP เป็นการบูรณาการชุดซอฟต์แวร์ที่นำมาใช้เพื่อสนับสนุนงานพื้นฐานทางกระบวนการธุรกิจขององค์กร ด้วยการรวมงานหลักต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานทางธุรกิจในทุกส่วนขององค์กรเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว เช่น ระบบการผลิต การขาย การขนส่ง การบัญชี การเงิน การตลาด ทรัพยากรมนุษย์ เป็นต้น ส่งผลให้ระบบงานต่าง ๆ เหล่านี้มีการเชื่อมโยงถึงกันแบบทั่วทั้งองค์กร
ระบบจัดการโซ่อุปทาน (SCM)
การจัดการโซ่อุปทาน หรือ SCM คือกระบวนการจัดการกิจกรรมในโซ่ อุปทาน ตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงปลายทางให้ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเริ่มต้นจากการออกแบบผลิตภัณฑ์หรือบริการ จนกระทั่งสินค้าหรือบริการนั้นถูกใช้โดยผู้บริโภค โดยกิจกรรมที่ต้องเข้าไปจัดการดูแลก็คือ การจัดการสินค้าคงคลัง การจัดหาวัตถุดิบ การแปลงรูปวัตถุดิบมาเป็นสินค้าขั้นสุดท้าย การส่งของ และระบบขนส่งโลจิสติกส์
ระบบ RFID
RFID ย่อมาจากคำว่า Radio Frequency Identification เป็นระบบฉลากที่ได้ถูกพัฒนามาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1980 โดยที่อุปกรณ์ RFID ที่มีการประดิษฐ์ขึ้นใช้งานเป็นครั้งแรกนั้น เป็นผลงานของ Leon Theremin ซึ่งสร้างให้กับรัฐบาลของประเทศรัสเซียในปี ค.ศ. 1945 ซึ่งอุปกรณ์ที่สร้างขึ้นมาในเวลานั้นทำหน้าที่เป็นเครื่องมือดักจับสัญญาณ ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นตัวระบุเอกลักษณ์อย่างที่ใช้งานกันอยู่ในปัจจุบัน
RFID ในปัจจุบันมีลักษณะเป็นป้ายอิเล็กทรอนิกส์ (RFID Tag) ที่สามารถอ่านค่าได้โดยผ่านคลื่นวิทยุจากระยะห่าง เพื่อตรวจ ติดตามและบันทึกข้อมูลที่ติดอยู่กับป้าย ซึ่งนำไปฝังไว้ในหรือติดอยู่กับวัตถุต่างๆเช่น ผลิตภัณฑ์ กล่อง หรือสิ่งของใดๆ สามารถติดตามข้อมูลของวัตถุ 1 ชิ้นว่า คืออะไร ผลิตที่ไหน ใครเป็นผู้ผลิต ผลิตอย่างไร ผลิตวันไหน และเมื่อไร ประกอบไปด้วยชิ้นส่วนกี่ชิ้น และแต่ละชิ้นมาจากที่ไหน รวมทั้งตำแหน่งที่ตั้งของวัตถุนั้น ๆ ในปัจจุปันว่าอยู่ส่วนใดในโลก โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยการสัมผัส (Contact-Less) หรือต้องเห็นวัตถุนั้นๆ ก่อน ทำงานโดยใช้เครื่องอ่านที่สื่อสารกับป้ายด้วยคลื่นวิทยุในการอ่านและเขียนข้อมูล RFID มีข้อได้เปรียบเหนือกว่าระบบบาร์โค้ดดังนี้
- มีความละเอียด และสามารถบรรจุข้อมูลได้มากกว่า ซึ่งทำให้สามารถแยกความแตกต่างของสินค้าแต่ละ ชิ้นแม้จะเป็น SKU (Stock Keeping Unit – ชนิดสินค้า) เดียวกันก็ตาม
- ความเร็วในการอ่านข้อมูลจากแถบ RFID เร็วกว่าการอ่านข้อมูลจากแถบบาร์โค้ดหลายสิบเท่า
- สามารถอ่านข้อมูลได้พร้อมกันหลาย ๆ แถบ RFID
- สามารถส่งข้อมูลไปยังเครื่องรับได้โดยไม่จำเป็นต้องนำไปจ่อในมุมที่เหมาะสมอย่างการใช้เครื่องอ่านบาร์โค้ด (Non-Line of Sight)
- ค่าเฉลี่ยของความถูกต้องของการอ่านข้อมูลด้วยเทคโนโลยี RFID นั้นจะอยู่ที่ประมาณ 99.5 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ความถูกต้องของการอ่านข้อมูลด้วยระบบบาร์โค้ดอยู่ที่ 80 เปอร์เซ็นต์
- สามารถเขียนทับข้อมูลได้ จึงทำให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ซึ่งจะลดต้นทุนของการผลิตป้ายสินค้า ซึ่งคิดเป็นประมาณ 5% ของรายรับของบริษัท
- สามารถขจัดปัญหาที่เกิดขึ้นจากการอ่านข้อมูลซ้ำที่อาจเกิดขึ้นจากระบบบาร์โค้ด
- ความเสียหายของป้ายชื่อ (Tag) น้อยกว่าเนื่องจากไม่จำเป็นต้องติดไว้ภายนอกบรรจุภัณฑ์
- ระบบความปลอดภัยสูงกว่า ยากต่อการปลอมแปลงและลอกเลียนแบบ
- ทนทานต่อความเปียกชื้น แรงสั่นสะเทือน การกระทบกระแทก
ระบบ RFID สามารถนำมาใช้กับงานจัดการด้านโลจิสติกส์ในโซ่อุปทานคือ
1. การจัดการทรัพย์สินในคลังสินค้า
2. การติดตามการผลิต
3. การควบคุมสินค้าคงคลัง
4. การจัดส่งและการรับสินค้า
5. การส่งสินค้ากลับคืนและการเรียกคืนสินค้า
6. การจัดการและควบคุมการขนส่ง
7. การตรวจสอบย้อนกลับ
ระบบจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM)
ระบบจัดการลูกค้าสัมพันธ์ หรือระบบ CRM เป็นระบบที่องค์กรสามารถนำมาใช้เพื่อช่วยจัดการด้านความสัมพันธ์กับลูกค้า เพื่อรักษาฐานลูกค้าเอาไว้โดยระบบ CRM ที่สมบูรณ์ จะจัดเตรียมสารสนเทศที่มีการประสานงานทางกระบวนการธุรกิจทั้งหมดเข้าด้วยกัน เพื่อติดต่อกับลูกค้าทั้งในเรื่องของการขาย การตลาด และการบริการ
ที่มา https://www.l3nr.org/posts/533129
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น