วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

บทที่ 7 เรื่องที่ 2 ระบบสารสนเทศทางการบัญชี


ระบบสารสนเทศทางการบัญชี ( Accounting Information System ) คือ ระบบที่ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อแปลงหรือประมวลผลข้อมูลทางการเงิน ( Financial data ) ให้เป็นสารสนเทศที่มีประโยชน์ในการตัดสินใจต่อผู้ใช้
     ระบบสารสนเทศทางการบัญชี จะให้ความสำคัญกับการรวบรวมข้อมูลและการติดต่อสื่อสารทางการเงิน ซึ่งเป็น กระบวนการติดต่อสื่อสารมากกว่าการวัดมูลค่า โดยที่ AIS จะแสดงภาพรวม จัดเก็บ จัดโครงสร้าง ประมวลข้อมูล ควบคุมความปลอดภัย และการรายงานสารสนเทศทางการบัญชี ปัจจุบันการดำเนินงานและการไหลเวียนของข้อมูลทางการบัญชีมีความซับซ้อนมาก ขึ้น ทำให้นักบัญชีต้องกำหนดคุณสมบัติของสารสนเทศด้านการบัญชีให้สัมพันธ์กับการ ดำเนินงานขององค์การ ประการสำคัญ AIS และระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการจะมีทั้งส่วนที่แยกออกจากกันและเกี่ยวเนื่อง สัมพันธ์กัน แต่ MIS จะให้ความสำคัญกับการจัดการสารสนเทศสำหรับการตัดสินใจของผู้บริหาร ขณะที่ AIS จะประมวลสารสนเทศเฉพาะสำหรับผู้ใช้งานทั้งภายในและภายนอกองค์การ เช่น นักลงทุน เจ้าหนี้ และผู้บริหาร เป็นต้น
     ผู้ใช้ประโยชน์จากระบบสารสนเทศทางการบัญชี แบ่งได้ 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ
1. บุคคลภายในองค์กร ได้แก่ ผู้บริหารในระดับต่างๆ
2. บุคคลภายนอกองค์กร เช่น ผู้ถือหุ้น นักลงทุน เจ้าหนี้ หน่วยงานรัฐบาล และคู่แข่งขัน เป็นต้น 
   
     ระบบสารสนเทศทางการบัญชีที่เป็นประโยชน์ ได้แก่
– งบกำไรขาดทุน
– งบดุล
– งบกระแสเงินสด
     ส่วนประกอบของระบบสารสนเทศทางการบัญชี
1.เป้าหมายและวัตถุประสงค์  ( Goals and Objectives )
2.ข้อมูลเข้า ( Inputs )
        • ยอดขายสินค้า ราคาขายของกิจการ
        • ราคาขายของคู่แข่งขัน ยอดขายของคู่แข่งขัน
3.ตัวประมวลผล ( Processor ) คือ เครื่องมือที่ใช้ในการแปลงสภาพจากข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ
        • การคำนวณ การเรียงลำดับ
        • การคิดร้อยละ
        • การจัดหมวดหมู่ การจัดทำกราฟ ฯลฯ
4.ข้อมูลออกหรือผลลัพธ์ ( Output )  คือ สารสนเทศที่มีประโยชน์ต่อผู้ใช้
5.การป้อนกลับ ( Feedback)
6.การเก็บรักษาข้อมูล ( Data  Storage )
7.คำสั่งและขั้นตอนการปฏิบัติงาน ( Instructions and Procedures )
8.ผู้ใช้ ( Users)
9.การควบคุมและรักษาความปลอดภัยของข้อมูล ( Control and Security Measures )
     วัตถุประสงค์ของระบบสารสนเทศทางการบัญชี มี 3 ประการ คือ
1.เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานประจำวัน
2.เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจของผู้บริหาร
3.เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางกฎหมาย
     หน้าที่ของระบบสารสนเทศทางการบัญชี
1.การรวบรวมข้อมูล ( Data Collection )
2.การประมวลผลข้อมูล ( Data Processing )
3.การจัดการข้อมูล ( Data Management )
4.การควบคุมข้อมูลและรักษาความปลอดภัยของข้อมูล ( Data Control and Data Security )
5.การจัดทำสารสนเทศ ( Information Generation )
     เทคโนโลยีทางการบัญชี
     1.โปรแกรมสำเร็จรูปทางการบัญชี คือ โปรแกรมที่เน้นการบันทึก การประมวลผลและการนำเสนอรายงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมโดยมีการบันทึกข้อมูล รายวัน การผ่านบัญชีไปสมุดแยกประเภท การรายงานสรุปผลในงบการเงินต่างๆผลลัพธ์ของโปรแกรมอาจอยู่ในรูปแบบเอกสาร หรือรายงานต่างๆมีคุณสมบัติ ดังนี้
        1.มีองค์ประกอบพื้นฐานของโปรแกรมครบถ้วน
        2.มีโปรแกรมอรรถประโยชน์ด้านการกำหนดขนาดแฟ้มข้อมูล
        3.ความสามารถของโปรแกรมในการเชื่อมต่อกับระบบปฏิบัติการที่มีขีดความสามารถในการทำงานสูง
        4.มีความสามารถใช้การเชื่อมต่อข้อมูลบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบลูกข่าย แม่ข่าย
        5.เป็นโปรแกรมที่มีความยืดหยุ่นในการใช้งานสูง
        6.มีระบบการกำหนดรหัสผ่านหลายระดับ
        7.มีการสร้างแฟ้มหลักรวมทั้งการปรับปรุงข้อมูลในแฟ้มหลัก
        8.มีระบบการรับเข้าข้อมูลและตรวจทานการรับเข้าข้อมูล
        9.การป้อนข้อมูลทางหน้าจออยู่ในลักษณะของการรับข้อมูลไดมากกว่าหนึ่งรายการ
      10.มีระบบป้องกันการผ่านบัญชีที่ผิดพลาด
      11.มีความยืดหยุ่นของการปิดงวดบัญชี
      12.มีโปรแกรมพิมพ์แบบฟอร์มเอกสารหรือรายงาน
      13.การโอนย้ายข้อมูลภายในระบบสร้างความคล่องตัวให้กับผู้ใช้ข้อมูล
     2.การนำเสนองบการเงินทางอินเทอร์เน็ต คือ รายงานทางการเงินที่นำเสนอต่อผู้ใช้ทั้งภายในและภายนอกธุรกิจ การนำเสนองบการเงินทางอินเทอร์เน็ตเป็นวิถีทางหนึ่งที่สามารถเชื่อมโยงงบการ เงินได้กว้างไกลทั่วโลกอย่างไร้พรมแดน
     3.โปรแกรมการวางแผนทรัพยากรองค์กร คือ โปรแกรมสำเร็จรูปที่ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้สภาพแวดล้อมการทำงานแบบลูกข่าย แม่ข่าย โดยทำการเชื่อมต่อกระบวนการทางธุรกิจภายในองค์การ ในส่วนการประมวลผลธุรกรรมของระบบสารสนเทศทางธุรกิจต่างๆที่เกี่ยวข้องโดยมี การใช้ฐานข้อมูลรวมขององค์การเพียงข้อมูลเดียวและมีการนำเข้าข้อมูลเพียง ครั้งเดียวผู้ใช้ในหน่วยงานต่างๆ
     ความสามารถของโปรแกรมการวางแผนทรัพยากรองค์การยุคปัจจุบัน นอกจากการเชื่อมต่อระบบสารสนเทศภายในองค์การด้วยฐานข้อมูลเดียวกัน ขยายขอบเขตไปถึงการเชื่อมต่อระบบสารสนเทศระหว่างองค์การเข้าด้วยกันหรืออีก นัยหนึ่งคือ การเชื่อมต่อระบบสารสนเทศภายในองค์การเข้ากับการเชื่อมต่อระบบสารสนเทศภายใน องค์การคู่ค้า



ที่มา   https://bellectk.wordpress.com/2012/09/19/%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8A/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น