บทนี้มีอะไรบ้าง ?
Â
6.1 การสื่อสารโทรคมนาคม
Â
6.2 องค์ประกอบของระบบสื่อสารโทรคมนาคม
Â
6.3
ตัวกลางหรือช่องทางการสื่อสาร
Â
6.4
ระบบเครือข่ายสื่อสาร
Â
6.5
รูปแบบการประมวลผลแบบกระจายเครือข่าย
Â
6.6
การใช้ประโยชน์จากการสื่อสารโทรคมนาคม
Â
6.7
อินเทอร์เน็ต
Â
6.8
ประเด็นทางการบริหารของการสื่อสารโทรคมนาคม
Â
6.9
สรุป
6.1
การสื่อสารคมนาคม
±
โทรคมนาคม(Telecommunications) หมายถึง
การสื่อสารข้อมูลระยะทางไกลในรูปแบบสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์
±
ปัจจุบันการถ่ายทอดสัญญาณส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบดิจิตอล
โดยใช้คอมพิวเตอร์ในการส่งข้อมูลจากสถานที่หนึ่งไปยังอีกสถานที่หนึ่ง
6.2
องค์ประกอบของระบบสื่อสารโทรคมนาคม
±
ระบบโทรคมนาคม(Telecommunications systems) คือระบบที่ประกอบด้วยฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์จำนวนหนึ่งที่สามารถทำงานร่วมกันและถูกจัดไว้สำหรับการสื่อสารข้อมูลจากสถานที่หนึ่งไปยังสถานที่อีกแห่งหนึ่ง
6.2
องค์ประกอบของระบบสื่อสารโทรคมนาคม
6.2
องค์ประกอบของระบบสื่อสารโทรคมนาคม
±
เครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับประมวลผล
±
เครื่องเทอร์มินัลสำหรับการรับหรือแสดงผลข้อมูล
±
ช่องทางสื่อสาร
±
อุปกรณ์สื่อสาร
±
ซอฟต์แวร์สื่อสาร
ประเภทของสัญญาณ
±
สัญญาณแอนะล็อก(analog signal)
±
สัญญาณดิจิทัล(digital signal)
6.3 ตัวกลางหรือช่องทางการสื่อสาร
±
ช่องสื่อสาร(communication channels) หมายถึง รูปแบบใดๆ
ที่สามารถนำมาใช้ในการถ่ายทอดสัญญาณข้อมูลจากอุปกรณ์ตัวหนึ่งในระบบเครือข่ายไปยังอุปกรณ์อีกตัวหนึ่ง
±
สื่อต่างๆ ที่ใช้ได้แก่ สายคู่บิดเกลียว
สายโคแอ็กเซียล สายใยแก้วนำแสง สัญญาณไมโครเวฟ สัญญาณผ่านดาวเทียม
และสัญญาณไร้สายแบบต่างๆ
สายคู่บิดเกลียว
±
สายคู่บิดเกลียว(twisted-pair wire) เป็นสายสื่อสารที่เก่าแก่ที่สุดประกอบด้วยลวดสายทองแดงหนึ่งคู่บิดเข้าด้วยกัน
±
ส่วนมากใช้เป็นสายโทรศัพท์สำหรับส่งสัญญาณแอนะล็อก
แต่สามารถส่งสัญญาณดิจิทัลได้
±
มีความเร็วในการส่งข้อมูลต่ำ
สายโคแอ็กเซียล
±
สายโคแอ็กเซียล(coaxial cable) เป็นสายลวดทองแดงขนาดใหญ่มีฉนวนหุ้มหนากว่าปกติ
ทำให้ถ่ายทอดสัญญาณได้สูงกว่าสายคู่บิดเกลียว
สายใยแก้วนำแสง
±
สายใยแก้วนำแสง(fiber-optic cable) ประกอบด้วยสายทำด้วยใยแก้หรือไฟเบอร์ขนาดเล็กมากมีฉนวนหุ้ม
ข้อมูลจะถูกแปลงเป็นจังหวะกระพริบของแสงเพื่อส่งไปตามสายที่มีความถี่ในการส่งสูงมาก
±
ส่งข้อมูลได้เป็นจำนวนมาก น้ำหนักเบา
ทนทาน แต่ราคาสูง
การสื่อสารไร้สาย
การสื่อสารไร้สาย(wireless transmission) หมายถึงการส่งสัญญาณผ่านอากาศโดยไม่ต้องใช้สื่อใดๆ ได้แก่การใช้สัญญาณไมโครเวฟ
การส่งสัญญาณผ่านดาวเทียม การใช้วิทยุติดตามตัว
การใช้โทรศัพท์เซลล์ลูล่าร์หรือโทรศัพท์มือถือ
ระบบไมโครเวฟ(Microwave)
±
ส่งสัญญาณที่เป็นคลื่นวิทยุความถี่สูงผ่านชั้นบรรยากาศ
เหมาะสำหรับการสื่อสารแบบจุดต่อจุด
±
ส่งข้อมูลจำนวนมากจากสถานีหนึ่งไปยังสถานีปลายทาง
ผ่านระยะทางไกลๆ โดยสัญญาณไมโครเวฟเดินทางเป็นเส้นตรงซึ่งส่งได้ไกลต่อจุดหนึ่งๆ
ประมาณ 40-48 กิโลเมตร
ความเร็วในการถ่ายทอดข้อมูล
±
ปริมาณข้อมูลที่ส่งผ่านช่องสื่อสารใดๆ
มีหน่วยวัดเป็น บิตต่อวินาที(bits per
second : bps)
±
ช่วงคลื่นสัญญาณที่รวมกันอยู่ในช่องสื่อสารหนึ่งช่อง
เรียกว่า ความกว้างของช่องสื่อสาร(bandwidth)
ช่วงคลื่นที่กว้างมากหมายถึงช่องสัญญาณที่กว้างมาก
สามารถส่งข้อมูลปริมาณมากได้ในเวลาอันรวดเร็ว
±
มัลติเพล็กเซอร์เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้การใช้สื่อหรือช่องสื่อสารขนาดใหญ่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
6.4
ระบบเครือข่ายสื่อสาร
Topology หมายถึงโครงสร้างของเครือข่าย
แบ่งออกเป็น
±
ระบบเครือข่ายดาว
±
ระบบเครือข่ายบัส
±
ระบบเครือข่ายวงแหวน
ระบบเครือข่ายแบบดาว(star topology)
±
ประกอบด้วยคอมพิวเตอร์แม่ข่าย(host computer) ที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ
และอุปกรณ์อื่นๆ เหมาะสำหรับงานที่ประมวลผลที่ศูนย์กลาง
และมีบางส่วนที่ประมวลผลที่เครื่องผู้ใช้งาน
±
เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายจะควบคุมระบบสื่อสารทั้งหมด
±
ระบบบัสเชื่อมต่ออุปกรณ์ทั้งหมดด้วยสายสื่อสารเพียงเส้นเดียว
สัญญาณจะถูกส่งออกมาในลักษณะกระจาย(broadcast)
ซึ่งจะถูกส่งออกไปในสายสัญญาณถึงอุปกรณ์ทุกตัว
±
ไม่มีอุปกรณ์ใดควบคุมระบบเลย
มีข้อเสียคือถ้ามีอุปกรณ์จำนวนมากในเครือข่ายจะทำให้ระบบช้าลงมากเพราะจะเกิดการชนกันของข้อมูล(collision)
Bus Topology
ระบบเครือข่ายแบบวงแหวน(ring topology)
±
มีลักษณะคล้ายกับระบบเครือข่ายแบบบัส คือไม่มีอุปกรณ์ตัวใดควบคุม
±
ความล้มเหลวของอุปกรณ์ตัวหนึ่งจะไม่มีผลกระทบกับอุปกรณ์ที่เหลืออยู่
±
อุปกรณ์แต่ละตัวสามารถสื่อสารกับอุปกรณ์ตัวอื่นได้
±
มีลักษณะการต่อเป็นวงกลม
ข้อมูลในสายจะถูกส่งผ่านอุปกรณ์แต่ละตัวต่อๆ กันเป็นวงกลม
Ring Topology
PBX-- LAN--WAN
±
PBX(Private
Branch Exchange) เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ชนิดพิเศษที่ออกแบบมาสำหรับจัดการบริหารการเชื่อมต่อวงจรโทรศัพท์จากสายนอกเข้ากับสายโทรศัพท์ภายในองค์กรอย่างอัตโนมัติ
±
ระบบเครือข่ายเฉพาะที่(Local Area Network:LAN)เป็นระบบเครือข่ายบริเวณไม่กว้างมากนัก
เชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กและอุปกรณ์ต่อพ่วง
และอุปกรณ์สื่อสารเข้าด้วยกันโดยมีช่องทางสื่อสารเป็นของตนเอง
มีซอฟต์แวร์เครือข่ายเป็นของตนเองเฉพาะเรียกว่า NOS(Network Operating System)
±
ระบบเครือข่ายบริเวณกว้าง(Wide Area Network:WAN) เป็นระบบที่มีขอบเขตการใช้งานกว้างขวางมาก
เช่นการเชื่อมต่อระบบระหว่างสาขาของธนาคาร เป็นต้น
บริการอื่นบนระบบเครือข่าย
±
Package Switching
±
Frame Relay
±
Integrated
Services Digital Network : ISDN
±
DSL
Package Switching
±
การแบ่งข้อมูลออกเป็นส่วนเล็กๆ
มีขนาดเท่ากันทั้งหมดเรียกว่า packet แต่ละแพ็กเก็ตจะมีข้อมูลอยู่
และถูกส่งออกไปหลายๆ เส้นทางภายในอินเทอร์เน็ตจนกว่าจะถึงปลายทาง
เมื่อถึงปลายทางแล้วจะมีซอฟต์แวร์ในการรวมแพ็กเก็ตต่างๆ
เข้าด้วยกันเหมือนข้อมูลก่อนส่งทุกประการ
Frame Relay
±
เป็นบริการที่ใช้งานระบบเครือข่ายร่วมกันแบบหนึ่งที่มีความเร็วในการทำงานสูง มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าระบบแพ็กเก็ตสวิตซ์
ส่วนมากมักจะใช้ร่วมกับสายใยแก้วนำแสง
±
ระบบนี้จัดข้อมูลเป็นขนาดเล็กๆ
คล้ายแพ็กเก็ตแต่ไม่มีข้อมูลที่ใช้ในการตรวจสอบขณะที่ส่งและแก้ไขข้อผิดพลาด
Integrated Services
Digital Network : ISDN
±
มาตรฐานใหม่สำหรับการเชื่อมต่อผ่านระบบเครือข่ายโทรศัพท์ที่รวมให้บริการทั้ง
เสียง ข้อมูล กราฟิก และวิดีโอ ในสายโทรศัพท์เดียงคู่สายเดียว
±
ระดับพื้นฐานสามารถส่งข้อมูลได้ที่ความเร็ว
128 kbps
DSL
±
ระบบดีเอสแอล(Digital Subscriber Line : DSL) สามารถใช้สายโทรศัพท์ทั่วไปสำหรับการส่งข้อมูลจำนวนมากๆ
ได้มีหลายประเภท เช่น
±
ADSL
±
SDSL
เทคโนโลยีการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
±
จดหมายอิเล็กทรอนิกส์(electronic mail)
±
กรุ๊ปแวร์(groupware)
±
วอยซ์เมลล์(voice mail)
±
โทรสาร
±
ระบบให้บริการข้อมูลดิจิตอล(digital information services)
±
การประชุมทางไกลอิเล็กทรอนิกส์(videoconference)
±
ระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์หรืออีดีไอ(electronic data interchange : EDI)
ระบบเครือข่ายองค์กรและการเชื่อมโยงระหว่างเครือข่าย
±
ระบบการประมวลผลแบบ client/server system
±
Mobile user
±
PDA
±
การใช้ระบบเครือข่ายองค์กร(enterprise network) และการเชื่อมต่อระหว่างระบบเครือข่าย(internetwork) ช่วยให้การส่งข้อมูลระหว่างองค์กรต่างๆ
ง่ายดายขึ้น
นอกจากนี้ยังเชื่อมโยงระบบเครือข่ายขนาดเล็กเข้าด้วยกันอย่างทั่วถึงทั้งองค์กร
รูปแบบการเชื่อมต่อสำหรับระบบเครือข่าย
±
ใช้มาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เรียกว่า
TCP/IP (Transmission Control
Protocol/Internet Protocol)
±
โครงสร้างของ TCP/IP แบ่งออกเป็น 5 ส่วนคือ
Ø
โปรแกรมประยุกต์
Ø
ทีซีพี
Ø
ไอพี
Ø
Network Interface
Ø
Physical Net
Ø
TCP/IP Protocol
บลูทูธ(Bluetooth)
±
บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์สื่อสารให้ความสนใจในการผลิตอุปกรณ์สื่อสารที่มีขนาดเล็ก
ความเร็วสูง ไร้สาย สำหรับสถานที่ทำงาน สถานศึกษา และบ้านพักอาศัยทั่วไป
±
บลูทูธเป็นมาตรฐานในการสื่อสารแบบไร้สายระหว่างเครื่องโทรศัพท์มือถือ
เพจเจอร์ เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์มือถือที่มีระยะทางห่างกันประมาณ 100 เมตรจากสถานีหลัก
อินเทอร์เน็ต(Internet)
±
เป็นระบบที่เชื่อมโยงเครือข่ายขนาดต่างๆ
เข้าด้วยกัน
มีความสามารถในการแลกเปลี่ยนข้อมูลภายในองค์กรและระหว่างองค์กรที่อยู่ห่างไกลกันเป็นพันๆ
ไมล์ได้
±
อินเทอร์เน็ตจึงเป็นเทคโนโลยีหลักในการสร้างระบบเครือข่ายภายในองค์กรที่สนับสนุนการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
การทำธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และองค์กรดิจิตอล
±
ปัจจุบันบุคคลทั่วไปมักจะใช้บริการไอเอสพี(Internet Service Provider : ISP) เพื่อเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต
±
ระบบอินเทอร์เน็ตมีรากฐานมาจากระบบรับ-ให้บริการ(Client/Server Technology)
±
ผู้ใช้บริการสามารถใช้โปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์(web browser) เพื่อเรียกดูเว็บเพจ(web pages) และสามารถควบคุมการทำงานได้ด้วยตัวเอง
±
เซิอร์ฟเวอร์(server) หมายถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ให้บริการข้อมูล
ในองค์กรหนึ่งๆ อาจมีเครื่องเซิอร์ฟเวอร์มากกว่า 1 เครื่องก็ได้
±
บริการบนอินเทอร์เน็ต
ชื่อบริการ
|
งานที่ให้บริการ
|
อีเมลล์
|
จดหมายอิเล็กทรอนิกส์
|
Usenet
|
กลุ่มสนทนาและกระดานอิเล็กทรอนิกส์
|
LISTSERVs
|
กลุ่มสนทนาและจดหมายอิเล็กทรอนิกส์เฉพาะกลุ่ม
|
Chatting
|
การสนทนาผ่านเน็ต
|
Telnet
|
การเข้าไปใช้บริการในเครื่องคอมพิวเตอร์อื่น
|
FTP
|
การถ่ายโอนแฟ้มข้อมูล
|
Gopher
|
การค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต
|
WWW
|
การท่องไปในอินเทอร์เน็ตโดยใช้ไฮเปอร์ลิงค์
|
เครือข่าย
WWW
±
เครือข่าย WWW มีโครงสร้างแบบ client/server architecture ให้บริการข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์หลายรูปแบบที่ครอบคลุมความต้องการของผู้ใช้
±
มีส่วนติดต่อกับผู้ใช้แบบกราฟิกที่น่าสนใจ
และใช้งานง่าย
±
ใช้ภาษาเอชทีเอ็มแอล(Hypertext Markup Language : HTML)
ในการเชื่อมโยงข้อมูลบนเว็บไซต์ต่างๆ
±
Homepage เป็นเว็บเพจหลักขององค์กรใดองค์กรหนึ่ง
โดยส่วนใหญ่จะนำเสนอข้อมูลที่องค์กรนั้นๆ ต้องการนำเสนอถึงผู้เข้าชม
±
โฮมเพจจะเป็นประตูบ้านที่จะนำไปสู่เว็บเพจ(web pages)อื่นๆ ที่จะเก็บไว้ในเว็บไซต์(web site) ซึ่งจะมีผู้ดูแลคือ เว็บมาสเตอร์(web master)
±
ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจะต้องทราบที่อยู่ของเว็บไซต์ที่อยู่ในรูปแบบที่เรียกว่า
Uniform Resource Locator (URL)
±
http ย่อมาจาก hypertext transport protocol เป็นโพรโทคอลที่ใช้รับส่งข้อมูลเว็บเพจ
การสืบค้นหาข้อมูลบนเครือข่ายเว็บ
±
Search engine เป็นเว็บไซต์ที่มีซอฟต์แวร์พิเศษที่ค้นหาเว็บไซต์ทีละแห่งหรือทีละกลุ่มเพื่อให้ตรงกับข้อกำหนด
ตัวอย่างเช่น lycos, Altavista, go.com,
google
±
เว็บไซต์บางแห่งให้บริการสืบค้นจาก search engine ต่างๆ หลายๆ แห่งซึ่งจะต้องมีซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการค้นหาเฉพาะ
เว็บไซต์เหล่านั้นได้แก่ spiders, bots, และ web crawlers
±
Shopping bot เป็นโปรแกรมประเภท agents ที่ออกแบบมาช่วยเหลือผู้ที่ต้องการจะสั่งซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ต
เมื่อกำหนดคุณลักษณะสินค้าที่ต้องการแล้วโปรแกรมเหล่านี้จะทำหน้าที่ค้นหา
เปรียบเทียบ แยกประเภท และสรุปรายการสินค้าหรือบริการให้โดยอัตโนมัติ
ตัวอย่างโปรแกรมเหล่านี้ได้แก่
±
MySimon,
BestWebBuys.com, Metaprices.com, AuctionBot
อินทราเน็ตและเอ็กซ์ทราเน็ต
±
เนื่องจากเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตและเว็บมีมาตรฐานและมีประสิทธิภาพที่ดีมาก
ดังนั้นจึงมีผู้นำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้ในองค์กร
จึงเรียกการนำเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตมาใช้ในองค์กรนี้ว่า ระบบอินทราเน็ต(intranet)
±
อินทราเน็ต
จึงเป็นระบบเครือข่ายภายในที่สามารถให้บริการได้ในทุกส่วนขององค์กร
โดยใช้โครงข่ายแบบเดิมผนวกเข้ากับมาตรฐานการเชื่อมโยงของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต
Intranet
±
ระบบอินทราเน็ตเป็นระบบปิด
ที่ไม่เปิดให้บุคคลภายนอกเข้ามาใช้งานได้โดยไม่ได้รับอนุญาต
ดังนั้นจึงมีการติดตั้งไฟร์วอลล์(Firewall)
ที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยของระบบภายในองค์กร
±
ไฟร์วอลล์ประกอบด้วยฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ทำหน้าที่ในการกั้นข้อมูลที่ไหลเข้าออกองค์กรโดยมีการกลั่นกรองก่อนเสมอ
±
Extranet หมายถึงระบบอินทราเน็ตที่เปิดกว้างไปสู่ระบบเครือข่ายภายนอก
Extranet
ระบบเว็บไร้สาย(wireless web)
±
ระบบเว็บไร้สายช่วยให้ผู้ที่ใช้อุปกรสื่อสารไร้สายสามารถเชื่อมต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตได้ในทุกสถานที่ที่ต้องการ
สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ได้หลายประเภท
และทำให้เกิดบริการชนิดใหม่ที่เรียกว่า M-commerce
M-commerce
บริการบน m-commerce
|
การประยุกต์
|
บริการเกี่ยวกับข่าวสาร(information-based)
|
ให้บริการข่าวสารทั่วไป อีเมลล์ การค้นหาสถานบริการน้ำมัน โรงภาพยนตร์ ร้านอาหาร โดยใช้โทรศัพท์มือถือ หรือพีดีเอ
|
บริการเกี่ยวกับรายการทำงาน(transaction-based)
|
ให้บริการทำธุรกรรม เช่น การซื้อขายหุ้น ซื้อบัตรชมคอนเสิร์ต ค้นหาราคาสินค้า โอนเงิน
|
บริการส่วนบุคคล(Personalized services)
|
ให้บริการที่เฉพาะเจาะจงสำหรับความต้องการของลูกค้าแต่ละราย
|
มาตรฐานสำหรับระบบเว็บไร้สาย
±
WAP (Wireless
Application Protocol)
±
I-mode
WAP
±
เป็นระบบที่ประกอบด้วยโพรโทคอลและเทคโนโลยีที่ช่วยให้เซลล์สื่อสารไร้สายที่มีจอแสดงผลขนาดเล็กมามีการเชื่อมต่อผ่านช่องสัญญาณขนาดเล็ก
และมีการเรียกใช้ข้อมูลและบริการจากฐานข้อมูลบนเว็บที่มีปริมาณไม่มากนัก
±
ใช้ภาษาควบคุมที่เรียกว่า (Wireless Markup Language : WML) ซึ่งมีพื้นฐานมากจากภาษา
XML
I-mode
±
พัฒนาขึ้นมาโดยบริษัท NTT DoCoMo ของประเทศญี่ปุ่น
±
ใช้ภาษา HTML อย่างย่อๆ
จึงง่ายต่อการใช้งานโดยทั่วไป
±
สื่อสารโดยใช้ระบบแพ็กเก็ตสวิตซ์ สามารถ
online ได้ตลอดเวลา
และแสดงผลได้หลายสีอีกด้วย
ประโยชน์
±
การเชื่อมต่อไปยังระบบเครือข่ายทั่วโลก
±
ลดค่าใช้จ่ายในการสื่อสาร
±
ลดค่าใช้จ่ายในการทำรายการธุรกรรม
±
ลดค่าใช้จ่ายในการตั้งตัวแทนองค์กร
±
ระบบมีความยืดหยุ่นสูงเหมาะแก่การใช้งาน
±
กระจายข่าวสารความรู้ได้อย่างรวดเร็ว
เทคโนโลยีที่สนับสนุนการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
±
ซอฟต์แวร์สำหรับเซิอร์ฟเวอร์
และเซิอร์ฟเวอร์
±
ซอฟต์แวร์สำหรับการติดตามลูกค้าและการปรับแต่งให้เหมาะกับลูกค้า
±
ซอฟต์แวร์สำหรับการบริหารจัดการข้อมูลในเว็บ
±
ซอฟต์แวร์สำหรับตรวจสอบประสิทธิภาพของเว็บ
±
บริการเว็บโฮสติ้ง
สรุป
•
การวางแผนสำหรับโครงสร้างระบบเครือข่ายภายในองค์กรคือภารกิจหลักของการบริหารงานผู้บริหารจะต้องพิจารณาการนำระบบเข้ามาสนับสนุนการดำเนินงานขององค์กรและพิจารณาความเหมาะสมในการเลือกใช้งาน
•
การวางแผนควรพิจารณาถึงการควบคุมจากส่วนกลาง
ตลอดจนถึงการใช้สารสนเทศระหว่างองค์กร
•
เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตช่วยให้การเชื่อมโยงระบบโครงสร้างภายในองค์กรและการกำเนิดขององค์กรดิจิตอล
•
มาตรฐานทีซีพีไอพีและอื่นๆ ช่วยให้การสืบค้นข้อมูลที่ต้องการได้รวดเร็วขึ้น
เทคโนโลยีที่นำมาใช้ได้แก่ เทคโนโลยีการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยีไร้สาย รวมทั้งการเชื่อมโยง การขยายขีดความสามารถ
ความน่าเชื่อถือและการบูรณาการเทคโนโลยีเข้ากับการประยุกต์ใช้งานจริง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น